การใช้ยาในคนตั้งครรภ์

จากการศึกษาพบว่าร้อยละ 90 ของคนตั้งครรภ์จะรับประทานยาระหว่างการตั้งครรภ์ และมีคนตั้งครรภ์ส่วนหนึ่งรับประทานยามากกว่า 4 ชนิด ดังนั้นยาเป็นสารเคมีที่สำคัญที่ผ่านจากรกไปยังทารกดังนั้นการใช้ยาในคนตั้งครรภ์ต้องระมัดระวัง

เราจะรู้ได้อย่างไรว่ายาจะปลอดภัยสำหรับคนตั้งครรภ์

ยาที่จำนำมาใช้ในคนตั้งครรภ์จะต้องมีการศึกษาเป็นอย่างดี และเมื่อยาออกสู่ท้องตลาดจะต้องมีการติดตามผลของยา ยาแผนปัจจุบันทุกชนิดจะต้องมีการระบุถึงความปลอดภัยเมื่อใช้ในคนตั้งครรภ์โดยแบ่งเป็นระดับดังนี้

  • Category A: จากการศึกษาในคนไม่พบความเสี่ยงต่อทารก
  • Category B:จากการศึกษาในสัตว์ไม่พบความเสี่ยงต่อตัวอ่อน จากการสังเกตไม่พบความเสี่ยงในคน แต่มีความเสี่ยงบ้างในสัตว์
  • Category C:มีผลเสียในสัตว์ แต่ยังไม่มีการศึกษาในคน
  • Category D:มีหลักฐานว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อทารกในคน การจะใช้ยานี้จะต้องเทียบประโยชน์และโทษ
  • Category X: ยาดังกล่าวมีผลเสียต่อทารกดังนั้นจึงไม่ควรใช้ในคนตั้งครรภ์

การใช้ยาในคนตั้งครรภ์

ข้อที่ควรจะคำนึงถึง ยาที่มีผลต่อการพัฒนาของอวัยวะหากคนตั้งครรภ์ได้รับยาในช่วงที่มีการพัฒนาของอวัยวะคือประมาณสัปดาห์ที่2-8 ดังนั้นหากได้รับยาในช่วงดังกล่าวจะเพิ่มความเสี่ยงต่ออวัยวะพิการ

ยาที่อาจจะทำให้เกิดทารกพิการ

  • ยารักษาความดันโลหิตกลุ่ม ACE (angiotensin converting enzyme)
  • ยารักษาความดันโลหิตกลุ่ม angiotensin II antagonist
  • ยารักษาสิว Isotretinoin (an acne drug)
  • alcohol
  • cocaine
  • vitamin A ในขนาดสูง
  • lithium
  • ฮอร์โมนเพศชาย
  • ยาปฏิชีวนะบางชนิด

    ยาที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนตั้งครรภ์

    • กลุ่ม Penicillins เช่น amoxicillin , ampicillin,penicillin
    • กลุ่ม Cephalosporins เช่น cefaclor ,cephalexin
    • Clindamycin

    ยาบางชนิดมีผลเสียต่อตัวทารกเช่นยากลุ่ม tetracyclines ซึ่งจะทำให้ฟันเหลืองจึงไม่แนะนำให้ใช้ในคนตั้งครรภ์ ยา Sulfonamides จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เพดานโหว่ปากแหว่ง ดีซ่าน

  • ยากันชักบางชนิด
  • ยารักษามะเร็งบางชนิด
  • ยารักษาข้ออักเสบบางชนิด
  • ยารักษาไทรอยด์บางชนิด
  • Thalidomide
  • ยาละลายลิ่มเลือด warfarin
  • ยา diethylstilbestrol (DES).

Retinoids

ยาในกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ Vitamin A ขนาดที่จะผลเสียต่อทารกประมาณ 10,000 IU/d และปริมาณยาในวิตามิน หรืออาหารเสริมจะมีขนาดเกิน 10,000 IU/d โดยพบว่าเมื่อได้รับขนาดยาดังกล่าวจะพบว่ามีความเสี่ยงต่อความพิการของอวัยวะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และมีความเสี่ยงต่อปัญญาอ่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ตัวอย่างของอวัยวะพิการได้แก่ โรคหัวใจพิการ มีความผิดปกติของตาและหูปากแหว่ง เพดานโหว่ ตาบอด

สำหรับ beta-carotene ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ พบในผักและผลไม้ สาร beta-carotene จะไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพิการแต่กำเนิด

ยา Isotretinoin (Accutane)

เป็นที่ใช้รักษาสิวการใช้ยานี้ในระหว่างการตั้งครรภ์โดยเฉพาะในไตรมาศแรกของการตั้งครรภ์จะเสี่ยงต่อความพิการเช่น หูผิดรูป หรือไม่มีหู คางเล็ก เพดานปากโหว่

 

Etretinate

เป็นยาที่ออกฤทธิ์ระยะยาว ยานี้ใช้รักษาโรคสะเก็ดเงิน หลังจากใช้ยานี้ 2 ปียังสามารถตรวจพบยานี้ในกระแสเลือด ความพิการของทารกที่พบได้คือ ความพิการทางสมอง กล้ามเนื้อและกระดูก

สำหรับยาครีมวิตามินเอจะถูกทำลายที่ผิวหนังดังนั้นจึงไม่มีผลต่อทารก

Thalidomide

Thalidomide มีข้อบ่งชี้ในการใช้ยารักษาโรค เรื้อน โรค rheumatoid มะเร็งบางชนิด และเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ก่อนจะใช้ยานี้จะต้องมีการเซ็นใบยิยยอมการรักษา ยานี้เมื่อใช้กับคนตั้งครรภ์จะเกิดความพิการของอวัยวะตามระยะเวลาที่ใช้กล่าวคือ

  1. เมื่อใช้ 12-27 วันหลังจากปฏิสนธิ - ความพิการเกี่ยวกับหู
  2. เมื่อใช้ 27-30 วันหลังจากปฏิสนธิ - แขนผิดรูป
  3. เมื่อใช้ 30-33 วันหลังจากปฏิสนธิ -ขาผิดรูป
  4. เมื่อใช้ 35-39 วันหลังจากปฏิสนธิ - นิ้วหัวแม่มือมี 3 ข้อ

Diethylstilbestrol

DES เป็นฮอร์โมน estrogen ใช้สำหรับรักษาผู้ที่มีอาการแท้ง หรือแพ้ท้องอาเจียนเป็นอย่างมาก พบว่าคนตั้งครรภ์ที่ได้รับฮอร์โมนนี้ในระยะ 9 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์พบว่าร้อยละ 70 จะมีความผิดปกติของระบบสืบพันธ์ เช่น มดลูกผิดรูป ช่องคลอดสั้น

ยากันชัก Anticonvulsants

โรคลมชัก Epilepsy เป็นโรคที่พบได้บ่อยในวัยเจริญพันธ์ การรับประทานยากันชัก และอาการชักจะมีผลต่อทารกในครรภ์ พบว่าผู้ที่ใช้ยากันชักจะมีความเสี่ยงของความพิการเพิ่มขึ้น 2 เท่า การจะหยุดยากันชักระหว่างการตั้งครรภ์ก็เสี่ยงต่อภาวะชักซึ่งจะทำให้รกขาดออกซิเจนหากมีอาการชักนาน

ความผิดปกติของทารกที่เกิดจากการใช้ยากันชักได้แก่ หัวเล็ก เด็กไม่เจริญเติบโต การพัฒนาล่าช้า โดยพบมากในคนที่ใช้ยา phenytoin, carbamazepine, and valproate

  • Valproic acid:ยากันชักนี้จะเพิ่มความเสี่ยงของสมองพิการร้อยละ1-2 หากใช้ยาเกิน 1000 mg/d.
  • Phenytoin: Phenytoinเป็นยากันชักที่ใช้บ่อยออกฤทธิ์โดยลดการดูดซึมกรดโฟลิค ความพิการที่พบได้คือ สมองเล็ก หน้าพิการ ปัญญาอ่อน โดยพบร้อยละ 11 ของผู้ที่ใช้ยา
  • Trimethadione: การรับประทานยานี้จะพบว่าอาจจะมีความผิดปกติของหัวใจ ฟันผิดปกติ ปัญญาอ่อน
  • Phenobarbital: ผู้ที่รับยากันชักชนิดนี้ในขณะตั้งครรภ์พบว่ามีความเสี่ยงต่อความพิการเพิ่มขึ้น
  • Carbamazepine:ผู้ที่รับยานี้ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์จะพบว่ามีความพิการเพิ่มขึ้น

การป้องกันผลข้างเคียงจากยาในคนตั้งครรภ์

สำหรับผู้ที่เป็นโรคลมชัก และไม่ได้ชักติดต่อกันมานาน ให้ปรึกษาแพทย์ที่รักษาเรื่องโรคลมชัก โดยให้ลดยาและหยุดยาก่อนการตั้งครรภ์ 6 เดือน และควรจะใช้ยาชนิดเดียว และมีขนาดน้อยที่สุดที่สามารถคุมอาการได้

  • หลีกเลี่ยงยา trimethadione และ valproic acid.
  • วัดระดับยาในกระแสเลือดเมื่อไปฝากครรภ์
  • เจาะระดับยาในเลือดทุกเดือน
  • หากในระหว่างตั้งครรภ์ต้องเพิ่มขนาดยา เมื่อคลอดจะต้องปรับลดขนาดยาเพื่อป้องกันผลข้างเคียงของยา

สมาคมสูติแพทย์ของอเมริกาแนะนำว่าสำหรับผู้ที่รับประทาน carbamazepine หรือ valproate หากต้องการจะตั้งครรภ์จะต้องได้รับยา กรดโฟลิกวันละ 4 mg/d เป็นเวลา 3 เดือนและรับประทานต่อจนครบ3เดือนแรกของการตั้งครรภ์

ยากันชักสามารถไหลเข้าน้ำนมได้มากบ้างน้อยบ้างขึ้นกับชนิดของยา คุณแม่สามารถให้นมบุตรได้ แต่เมื่อทารกซึมต้องหยุดนมทันที

Anticoagulants

คนตั้งครรภ์จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด แต่ยาต้านการแข็งตัวของลิ่มเลือดก็มีผลต่อการตั้งครรภ์

  • ยา Warfarin (Coumadin)
    • ไม่ควรให้ในขณะตั้งครรภ
    • หากได้รับยานี้ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ที่เริ่มมีการพัฒนาอวัยวะ พบว่ามีความเสี่ยงของความพิการเพิ่มขึ้นร้อยละ 30
    • ความเสี่ยงของการแท้งเพิ่มขึ้น 14.6-56%.
    • ยานี้ผ่านรกไปสู่ทารกอาจจะทำให้ทารกตายในครรภ์ หรือเลือดออก
    • ยานี้จะใช้ในคนตั้งครรภ์ที่รักษาด้วยยาอื่นแล้วไม่ได้ผล
  • ยา Heparin and LMWH
    • Heparins เป็นยาที่ควรจะใช้ในคนตั้งครรภ์
    • ยา Heparins ไม่ผ่านรกไปสู่ทารก ทารกจึงปลอดภัยจากเลือดออก
    • ความเสี่ยงที่พบได้:
      • ร้อยละ 2% จะเพิ่มความเสี่ยงของเลือดออก
      • ร้อยละ 17-36% จะมีมวลกระดูกลดลง
      • ร้อยละ 2จะมีความเสี่ยงของกระดูกหลังหัก
      • ความเสี่ยงของเกล็ดเลือดต่ำ
    • สำหรับ LMWH ยังไม่มีการศึกษาในคนตั้งครรภ์ แต่สำหรับคนที่ไม่ท้องพบว่าผลข้างเคียงของยาค่อนข้างต่ำ
  • Danaparoid
    • ยานี้ผ่านรกได้น้อยเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ยา heparin และมีเกล็ดเลือดต่ำ
    • เท่าที่รายงานยานี้ไม่มีผลเสียต่อทารก
  • Hirudin
    • เท่าที่มีรายงาน 2 รายงานไม่พบว่ามีผลเสียต่อทารก
  • Fondaparinux
    • จากการทดลองยานี้ผ่านรกได้น้อย แต่สามารถตรวจพบยานี้ในหลอดเลือดสะดือโดยพบปริมาณร้อยละ10ของเลือดแม่
  • Aspirin
    • เป็นยาต้านเกล็ดเลือด
    • จากการศึกษายังไม่พบความเสี่ยงต่อการเกิดแท้งบุตร ทารกพิการ หรือภาวะอื่นๆ

ยาลดความดันโลหิตสูง

  • Methyldopa: เป็นยาที่ปลอดภัยสำหรับคนตั้งครรภ์ ใช้รักษาภาวะความดันโลหิตสูงในขณะตั้งครรภ์
  • Beta blockers:ยาปิดกั้นเบตาใช้รักษาความดันโลหิตสูงในระหว่างการตั้งครรภ์พบว่าจะเกิดภาวะ เด็กน้ำหนักตัวน้อย หัวใจเด็กเต้นช้า
  • Hydralazine:เป็นยาลดความดันโลหิตสำหรับคนตั้งครรภ์ แต่เมื่อให้ยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดจะเกิดความดันโลหิตต่ำ
  • Angiotensin-converting enzyme (ACE) inhibitors และ angiotensin receptor blockers (ARBs): ยาทั้งสองชนิดไม่ควรจะใช้ในคนตั้งครรภ์ ยานี้จะทำให้น้ำคร่ำน้อย มีความผิดปกติของไต ไตวาย และอาจจะเสียชีวิต

ยาที่ปลอดภัยสำหรับคนตั้งครรภ์

โรค/ภาวะ ยาที่ปลอดภัย
กรดไหลย้อน, ก๊าซในกระเพาะอาหาร, upset stomach ยา Antacids

ยาขับลม Simethicone for gas pains (Air-X,)
ไข้หวัด ไอ

ยาที่ปลอดภัย

  • ยาขับเสมหะ Guaifenesin
  • ยาแก้ไอ Dextromethorphan
  • ยาแก้ไปที่มีส่วนผสมของ Guaifenesin และ dextromethorphan
  • Cough drops
  • ยาทาVicks VapoRub

ยาที่ไม่ควรใช้

  • ยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของ alcohol
  • ยาที่มีส่วนผสมของ alcohol ยาลดน้ำมูก pseudoephedrine และ phenylephrine ซึ่งจะทำให้เลือดไปเลี้ยงรกลดลง
ยาแก้ปวดลดไข้ ยา Acetaminophen

ยาแก้แพ้

  • Chlorpheniramine
  • Loratadine
  • Diphenhydramine

 

ท้องผูก, ริดสีดวง, and ท้องร่วง

  • Psyllium
  • Polycarbophil
  • Methylcellulose
  • ยาระบายอื่นๆเช่น Dulcolax, milk of magnesia
  • ยาทาสำหรับรักษา Hemorrhoid creams
  • ยารักษาท้องร่วง Loperamide,Imodium, Kaopectate II, Maalox Anti-Diarrheal, Pepto Diarrhea Control

โรคเชื้อรา

 

  • Clotrimazole
  • Miconazole
  • Terbinafine
  • Tioconazole
  • Butoconazole
  • Butenafine
  • Tolnaftate
  • Undecylenic Acid and derivatives

ยาที่ไม่ควรใช้ขณะตั้งครรภ์

  • ยารักษาเชื้อราอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีนี้

นอนไม่หลับ

  • Diphenhydramine
  • Doxylamine succinate
ผื่นคัน
  • Benadryl cream
  • Caladryl lotion or cream
  • Hydrocortisone cream or ointment
  • Oatmeal bath (Aveeno)
ยาทาแผล
  • Bacitracin
  • J&J First-Aid Cream
  • Neosporin
  • Polysporin

ผลต่อสุขภาพทารกจากรังสี | ผลกระทบจากโลหะหนัก | ยาฆ่าแมลงมีผลต่อทารกหรือไม่ | ผลกระทบจากสารเคมี | ผลกระทบจากยา | nutrition | สารเสพติด |