คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า


 

ภาพแสดงความถี่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากับการนำมาใช้ประโยชน์

ประเทศต่างๆบนโลกได้พยายามเปลี่ยนแปลงประเทศจากประเทศเกษตรกรรมไปเป็นอุตสาหกรรม ซึ่งก็มีทั้งผลดีและผลเสียทั้งแง่เศรษฐกิจและสังคม แต่ที่ต้องคำนึงถึงคือผลเสียต่อสุขภาพ

สังคมอุตสาหกรรมจะมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเครื่องไฟ้ฟ้าที่ใช้ในบ้าน เช่นเครื่องรับทีวี วีดีโอ คอมพิวเตอร์ รวมทั้งสถานนีกระจายคลื่นโทรศัพท์มือถือ และมือถือ มีรายงานถึงกลุ่มอาการซึ่งเกิดจากคลื่นแม่เหล็ก

คลื่นไฟฟ้าและคลื่นแม่เหล็กต่างกันอย่างไร

คลื่นแม่เหล็กไฟ้ฟ้ามีกี่ชนิด

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีสองชนิดคือ

  1. Ionizing radiation คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ให้รังสีออกมาได้แก่ Gamma rays and X-rays ซึ่งหากได้รับมากไปจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
  2. Non-ionizing radiation ได้แก่คลื่น คลื่นวิทยุ (Radio-frequency energy),แสง( visible light) และ( microwave ) คลื่นนี้จะให้เพียงพลังความร้อนเท่านั้น

Electromagnetic Hypersensitivity

เป็นกลุ่มของอาการที่เกิดจากการสัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาการดังกล่าวก็ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเกิดจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาการดังกล่าวได้แก่ อาการทางผิวหนังซึ่งสามารถมีอาการได้แก่ ผิวแดง ชาหรือแสบร้อน นอกจากนั้นยังมีอาการทั่วไปเช่น อ่อนเพลีย เบื่อหน่าย มึนงง คลื่นไส้อาเจียน ใจสั่น ท้องอืดท้องเพ้อ

ความชุกของโรค

การหาความชุกเป็นเรื่องยาก พบได้ตั้งแต่ไม่กี่คนต่อประชากรล้านคน การรายงานขึ้นกับพื้นที่ ประเทศที่รายงานมีอุบัติการมากได้แก่ Sweden Denmark German ประเทศที่มีรายงานน้อยได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย ฝรั่งเศษ

จากศึกษาทดลองพบว่า

  • คนไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าเกิดการสัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่าอาการนั้นมีความสัมพันธ์กับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
  • อาการต่างๆดังกล่าวน่าจะมาจากสิ่งแวดล้อม เช่น แสง ปัยหาทางสายตา การจัดโต๊ะทำงาน การระบายอากาศ และความเครียด
  • บางคนเกิดจากความเครียด ความกังวลเรื่องอันตรายต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

สรุป

กลุ่มอาการดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และยังไม่มีเกณฑ์การวินินจฉัยและการรักษา

สนามแม่เหล็กไฟฟ้า ค่ามาตราฐาน ผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าสนามแม่เหล็กในบ้าน microwave โทรมือถือ

เอกสารอ้างอิง

  • Electromagnetic Fields And Public Health,Fact Sheet Number 296 December 2005,WHO

เพิ่มเพื่อน