การรักษาโรคสะเก็ดเงิน


การรักษาโรคสะเก็ดเงินมีขั้นตอนการรักษาอยู่สามขั้นตอนได้แก่ การรักษาสะเก็ดเงินด้วยยาและแสงอาทิตย์ การรักษาด้วยแสง และการรักษาด้วยยา

ขั้นที่3 การให้ยากดภูมิคุ้มกัน

Methotrexate

ยานี้เป็นยาที่นิยมใช้ในโรคสะเก็ดเงินที่เป็นรุนแรงโดยเฉพาะชนิด erythrodermic และ pustularโดยรับประทานหรือการฉีดอาทิตย์ละครั้ง เนื่องจากยานี้มีผลข้างเคียงคือคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารการได้ยาควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ ยานี้ไม่ควรให้ในคนเจริญพันธ์ เป็นยาที่ได้ผลดีและราคาไม่แพง แต่มีผลข้างเคียงสูง จึงมักใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาที่ปลอดภัยกว่า เช่น การฉายแสง เนื่องจาก เม็ทโทเทร็กเสดมีผลข้างเคียงหลายประการ จึงจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังผลเสียที่อาจเกิดได้เป็นครั้งคราว โดยการตรวจเลือดก่อนการรักษา และหลังการรักษาทุกๆ 3-4 เดือน อาการข้างเคียงที่สำคัญได้แก่ ตับอับเสบและตับแข็ง

Oral Retinoids

ยานี้อยู่ในกลุ่มของวิตามิน เอ สามารถใช้รักษาโรคสะเก็ดเงินที่เป็นรุนแรงโดยเฉพาะ pustular และ erythrodermicโดยต้องใช้ร่วมกับ UVB and PUVA. และยังช่วยลดปริมาณยาและแสงที่ใช้จึงทำให้ผลข้างเคียงจากการรักษาทั้งสองลดลงผลข้างเคียงที่สำคัญได้แก่ ผิวแห้ง, ลอกเป็นขุย ซึ่งเป็นอาการที่พบได้เกือบทุกรายที่รับประทานยา นอกจากนั้นยายังอาจทำให้ไขมันในเลือดสูง และตับอักเสบ ซึ่งถ้าหยุดการรักษาในระยะต้นๆ ก็จะกลับเป็นปกริได้ จึงควรตรวจเลือดทุกๆ 1-2 เดือน ยาดังกล่าวห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์เพราะจะทำให้ทารกที่เกิดมาพิการได้ เนื่องจากยาอยู่ในเลือดได้นานถึง 2 ปี หลังหยุดยาจึงจำเป็นต้องห้ามตั้งครรภ์ในผู้ป่วยที่รับประทานยาดังกล่าวอย่างน้อย 2 ปี หลังหยุดยา ถ้าใช้ยาเป็นเวลานานมากกว่า 1 ปีขึ้นไป อาจทำให้เกดกระดูกงอกได้ จึงต้องระวังโดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็กยานี้หากใช้ในคนท้องอาจจะทำให้เกิดพิการแต่กำเนิด และไม่ควรได้รับวิตามินเสริมโดยเฉพาะวิตามิน เอ

Cyclosporine

ยานี้กดภูมิคุ้มกัน ใช้ในโรคสะเก็ดเงินที่เป็นรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ยานี้อาจจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงและเป็นพิษต่อไต ยาดังกล่าวใช้ได้ผลดีมากโดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง แต่เนื่องจากมีการเกิดซ้ำหลังหยุดยาได้สูง อีกทั้งมีผลข้างเคียงที่รุนแรงจึงจะใช้เมื่อการรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผลแล้ว เช่น ยาทา, การฉายแสง และเอ็ดเทร็ดทีเนด ผลข้างเคียงที่สำคัญได้แก่ การเกิดความดันเลือดสูง ไตและตับอักเสบ ซึ่งถ้าหยุดยาในระยะต้นๆ อาจจะกลับเป็นปกติได้จึงจำเป็นต้องตรวจเลือดเป็นประจำทุกเดือน



วิธีเลือกใช้ยาตามตำแหน่งของโรค

ผื่นที่ศีรษะ

โดยทั่วไปแล้วการใช้ยาทาพวกสเรียรอยด์ นรูปของยาน้ำมักจะได้ผลดี และผลข้างเคียงน้อย วิธีใช้ควรทาวันละ 2 ครั้งจะได้ผลดีกว่าทาครั้งเดียว ในกรณีที่ผื่นตอบรับได้ดีต่อการรักษาการใช้หมวกอาบน้ำคลุมหลังทายาสเตียรอยด์ จะทำให้ผลของการรักษาดีขึ้น แต่ไม่ควรใช้เป็นเวลานานเกิน 1 สัปดาห์ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้ การใช้แชมพกำจัดรังแคและน้ำมันดินอาจช่วยให้การเกิดเป็นซ้ำช้าลงได้

ผื่นที่หน้า เนื่องจากผิวที่ใบหน้าค่อนข้างบาง และเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย จึงควรงดการใช้ยาที่อาจทำให้เกิดอาการดังกล่าว เช่นแอนทราลิน และวิตามินดี 3 ยาที่นิยมใช้และได้ผลดีคือ สเตียรอยด์ชนิดอ่อนๆการใช้สเตียรอยด์ชนิดแรง อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ง่าย จึงไม่ควรใช้เป็นเวลานาน

ผื่นที่เล็บ

โรคสะเก็ดเงินที่เลบเป็นตำแหน่งที่รักษายาก โดยทั่วไปตัวโรคมักไม่ทำให้เกิดอาการอย่างไรปัญหาที่สำคัญน่าจะเป็นเรื่องความสวยงามมากกว่า จึงไม่จำเป็นต้องให้การรักษา แต่ถ้าต้องการจะรักษาอย่างจริงจัง การรักษาที่ดีที่สุดคือ การฉีดสเตียรอยด์ที่จมูกเล็บทุก3-4 สัปดาห์ ประมาณ 4-6 ครั้ง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้

ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่3

เพิ่มเพื่อน