ผื่นแพ้ยา Erythema Multiforme

เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากแพ้ยา หลังจากได้รับยาที่แพ้จะเกิดผื่น ลักษณะที่สำคัญคือจะมีผื่นได้หลายรูปแบบในคนคนเดียวกัน เริ่มต้นอาจจะเป็นผื่นแดงแบนราบ (erythematous macules ) หรือตุ่มแข็ง ตุ่มน้ำใส และตุ่มพอง (vesicle) ตรงกลางผื่นอาจจะมีตุ่มน้ำหรือเลือดออกทำให้มีลักษณะเหมือนม่านตา iris หรือ target ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรค ผื่นส่วนใหญ่จะขึ้นตามหลังมือ หลังเท้า แขน ขา ฝ่ามือ มักจะเป็นทั้งสองข้าง ลำตัว และหน้า ผู้ป่วยที่อาการหนัก เรียก Stevens-Johnson-Syndromes  ผู้ป่วยจะมีไข้อ่อนเพลีย ปวดตามข้อ ที่สำคัญจะมีแผลในปาก ตาแดง แผลทางเดินปัสสาวะ ทางเดินอุจาระ

สาเหตุผื่นแพ้ยา Erythema Multiforme

  • ร้อยละ 50 เกิดจากแพ้ยา เช่น sulfonamides,barbiturates,NSAIDS,phenyltoin,allopurinol,penicillin
  • ส่วนที่เหลือเกิดจากติดเชื้อ เช่น เริม mycoplasma วัคซีน เช่น BCG โปลิโอ เชื้อราบางชนิด


อาการของโรคมีอะไรบ้าง

ผื่นแพ้ยา

  • ไข้
  • รู้สึกไม่สบายตัว
  • คันตามผิวหนัง
  • ปวดข้อ
  • มีผื่นขึ้นซึ่งมีได้หลายรูปแบบ
    • เป็นผื่นแดงตุ่มเล็กๆ หรือผื่นแดงแบนราบ หรือผื่นแบบลมพิษ
    • ตรงกลางผื่นสีซีดล้อมด้วยผื่นแดงที่เรียกว่า "target", "iris", or "bulls-eye"
    • มีตุ่มน้ำซึ่งมีหลายขนาด
    • พบผื่นที่ลำตัว แข ขา ฝ่ามือ ใบหน้า มักจะเป็นสองข้าง

อาการอื่นๆที่อาจจะพบได้

  • ตาแดง
  • แสบตา น้ำตาไหล
  • แสบปาก

การรักษาผื่นแพ้ยา Erythema Multiforme

  • ค้นหาสาเหตุและรักษาต้นเหตุ เช่นการหยุดยาที่แพ้ หรือรักษาโรคติดเชื้อ
  • บริเวณที่เป็นตุ่มน้ำให้ทำความสะอาดและทำแผล
  • รับประทานยาแก้แพ้เช่น chlorpheniramine 4 mgวันละ 4 ครั้ง
  • ในรายที่เป็นรุนแรงแพทย์จะรับตัวไว้รักษา และให้ยา steroid

 

กลับหน้าเดิม