การใช้เครื่องมือ Radiofrequency Devices

เรามีเครื่องมือที่เรียกว่า laser สำหรับรักษาผิวหนังโดยการที่เนื้อเยื่อชั้นdermis ได้รับแสงและเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน แต่มีวิธีการรักษาด้วยคลื่นวิทยุความถี่พิเศษ มาใช้รักษาโรคความสวยความงาม

การักษาด้วย์วิธีนี้ เป็นการรักษาด้วยการทำงานจากพลังงานคลื่นวิทยุความถี่แบบพิเศษ ที่ส่งผ่านหัวยิงลงไปยังผิวชั้นลึก ความร้อนจะทำให้คอลลาเจนมีการหดตัวขึ้นในทันที พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปคอลลาเจนใหม่จะถูกสร้างเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่กระชับขึ้น รอยย่นลดลง ผลข้างเคียงจะมีเพียงรอยแดงหรือรอยบวมเล็กน้อย และจะจางหายไป

การใช้คลื่นวิทยุในการสร้างความร้อน เพื่อให้มีการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนังกระชับ ส่วนประกอบที่สำคัญคือหัว electrode ซึ่งจะสัมผัสกับผิวหนังของเรา ไฟฟ้าก็สามารถใช้ได้ทั้งไฟกระแสตรง และกระแสสลับ เมื่อไฟฟ้าผ่านเข้าหัว electrode ซึ่งจะกำเนิดคลื่นวิทยุ เนื้อเยื่อที่ได้รับคลื่นวิทยุก็จะเกิดความร้อนขึ้นมา

การใช้คลื่นวิทยุรักษาจะใช้ได้กับผิวทุกชนิด ที่สำคัญเซลล์ชั้นบนสุดจะไม่ได้รับผลกระทบจากการรักษานี้ ดังนั้นจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสีผิว

สำหรับหัว electrode ก็มีทั้งชนิด

• หัว electrode หนึ่งหัวเรียกว่า monopolar คลื่นวิทยุจะผ่านตั้งแต่หัว electrode ไปยังเนื้อเยื่อทั้งหมดที่คลื่นวิทยุผ่านไป แต่ความร้อนมักจะเกิดที่ระดับ5-10 มม เท่านั้นแต่จะมีความร้อนค่อนข้างมากซึ่งอาจจะต้องใช้ยาระงับปวด หรือเจอเย็นทาผิวหนังก่อนการรักษา
• หัว electrode สองหัวเรียก Bipolar คลื่นวิทยุจะวิ่งระหว่างหัวทั้งสองหัวนี้ ทำให้คลื่นวิทยุไม่ผ่านไปยังร่างกายส่วนอื่น
• หัว electrode สองหัวเรียก Bipolar ร่วมกับเครื่องLaser

การรักษาด้วยคลื่นวิทยุความถี่พิเศษใช้รักษาโรคอะไร

• ลบรอยตีนกาทั้งตื้นและรอยลึก
• ลบรอยย่น
• แก้ไขภาวะผิวหนังแตก
• ทำให้ผิวหนังเต่งตึง ลบรอยย่นของผิวหนัง
• ลดขนาดรูขุมขน
• ลบรอยแผลเป็นจากสิว

ผลข้างเคียงจากการรักษา

ผลข้างเคียงของการรักษาจะน้อยกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์

• พบเพียงรอยแดงและปวดเล็กน้อยซึ่งอาการจะหายใน 2-3 ชม
• ไม่ค่อยพบการเปลี่ยนแปลงของวีผิว
• ไม่ค่อยพบว่ามีการอักเสบของผิวหนัง

การรักษานี้ใช้เวลานานแค่ไหน

ปกติทำแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากทำก็สามารถไปทำงานได้ ทำประมาณ3-5 ครั้ง

เมื่อไรจึงเห็นผลและอยู่ได้นานแค่ไหน

ประมาณหนึ่งสัปดาห์ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลง และอยู่ได้นาน 1-2 ปี

มีการเจ็บปวดหรือไม่

จะรู้สึกเพียงร้อนเหมือนถูกแดดเผา หากร้อนมาก็ให้แพทย์ฉีดยาชา