การตรวจหัวใจโดยการวิ่งสายพาน

การตรวจหัวใจโดยการวิ่งสายพานเป็นการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจในขณะที่วิ่ง หากมีหลอดเลือดตีบ เลือดจะไปเลี้ยงหัวใจไม่พอก็จะทำให้กราฟไฟฟ้าหัวใจแสดงผลออกมา

การตรวจหัวใจโดยการวิ่งสายพานตรวจอะไรได้บ้าง

  • เมื่อสงสัยว่าหลอดเลือดหัวใจจะตีบจนกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
  • หาสาเหตุของหัวใจเต้นผิดปรกติ
  • ประเมินการรักษาดรคหัวใจ
  • ตรวจก่อนการออกกำลังกายในกลุ่มที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ

การตรวจหัวใจโดยการออกกำลังกาย

การทดสอบโดยการออกกำลังกาย หมายถึงการทดสอบที่ทำให้หัวใจทำงานมากขึ้นร่วมกับการวัดความดันโลหิต และกราฟคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การทำให้หัวใจทำงานหนักอาจจะใช้เครื่องวิ่งสายพาน หรือขี่จักรยาน บางครั้งอาจจะใช้ยากระตุ้น ส่วนการทดสอบหัวใจโดยการออกกำลังกาย โดยใช้เครื่องตรวจด้วยคลื่นเสียงหรือทางรังสีจะไม่กล่าวในที่นี้

ประโยชน์ของการตรวจหัวใจในการออกกำลังกาย

  1. เพื่อการวินิจฉัย เช่นผู้ป่วยที่มีอาการแน่หน้าอก เราทดสอบหัวใจโดยการวิ่งเพื่อตรวจว่ามีเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบหรือไม่
  2. เพื่อประเมินความรุนแรง/ความเสี่ยงหรือพยากรณ์โรคของผู้ป่วย ที่มีเส้นเลือดหัวใจตีบ
  3. ประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้อหัวใจตาย
  4. การตรวจเพื่อประเมินโรคหัวใจก่อนการผ่าตัด

ในการส่งตรวจแพทย์จะต้องคำนึงอะไรบ้าง

  1. คุณภาพ ความชำนาญ ประสบการณ์ของผู้ร่วมงาน
  2. ความไว ความจำเพาะ และความแม่นยำของการตรวจ
  3. ค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบการตรวจชนิดอื่น
  4. ผลการตรวจมีผลต่อการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงการรักษาหรือไม่
  5. ผลทางจิตวิทยาของการตรวจ

เมื่อไรแพทย์จะส่งตรวจการวิ่งสายพาน

เหตุผลในการส่งตรวจด้วยวิธีวิ่งสายพานได้แก่

  1. ประเมินผู้ป่วยก่อนการผ่าตัด ผู้ป่วยซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และหรือมีอาการสงสัยว่าจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดและมีความจำเป็นต้องผ่าตัดโดยเฉพาะการผ่าตัดที่ต้องเสียเลือด หรือการผ่าเข้าช่องทรวงอก อาจจะจำเป็นต้องตรวจหัวใจว่ามีเส้นเลือดตีบหรือไม่
  2. ตรวจผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน แพทย์อาจจะตรวจโดยการวิ่งบนสายพานก่อนกลับบ้านและนัดมาตรวจอีกครั้งหลังจากผู้ป่วยกลับบ้าน เพื่อประเมินความเสี่ยงว่ามีเส้นเลือดอื่นตีบหรือไม่
  3. ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด หรือผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอก

ข้อห้ามในการตรวจ

แม้ว่าการตรวจด้วยการวิ่งบนสายพานจะปลอดภัย แต่ก็ยังมีข้อห้ามตรวจ ภาวะดังกล่าวได้แก่

  • ผู้ป่วยเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน(2วัน)
  • ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง
  • ผู้ป่วยที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติที่เกิดอาการและความดันโลหิตไม่คงที่
  • ผู้ป่วยที่มีลิ้นหัวใจเอออติกตีบและมีอาการ Symptomatic severe aortic stenosis
  • ผู้ป่วยหัวใจวายที่ยังคุมอาการไม่ได้
  • ผู้ป่วยที่มีลิ่มเลือดไปอุดหลอดเลือดในปอด Pumonary embolism
  • ผู้ป่วยกล้ามเนื้อและหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ Acute myocarditis or pericarditis
  • ผู้ป่วยหลอดเลือดแดงแยก Acute aortic dissection

 

การเตรียมตัวในการตรวจ

  • เตรียมชุดสำหรับไปวิ่งออกกำลังให้สวมสบายๆ รองเท้าสำหรับวิ่ง
  • เตรียมน้ำดื่ม และผ้าสำหรับใช้เมื่ออกกำลังเสร็จ
  • ควรจะมีเพื่อนไปด้วย

จะรับประทานอาหารก่อนตรวจได้หรือไม่

  • สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้ แต่ควรจะงดก่อนการตรวจ 4 ชั่วโมง
  • ควรจะงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟ เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม ควรจะงด 24 ชั่วโมงเพราะกาแฟจะมีผลต่อการตรวจ
  • งดบุหรี่ก่อนการตรวจ 24 ชั่วโมง

จะงดยาหรือรับประทานยาต่อ

  • ให้งดยาที่ซื้อรับประทานเองเพราะอาจจะมีส่วนผสมของกาแฟอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • สำหรับยาที่รักษาโรคให้รับประทานตามปกติ นอกเสียจากแพทย์จะสั่งงด
  • หากท่านเป็นโรคหอบหืดให้นำยาพ่นติดตัวไปด้วย

เป็นโรคเบาหวานจะต้องทำอย่างไร

  • หากท่านใช้อินซูลิน ให้ปรึกษาแพทย์ว่าจะฉีดเท่าไร โดยมากแพทย์จะแนะนำให้ลดขนาดลงครึ่งหนึ่งในวันที่ตรวจ
  • หากท่านรับประทานยาเบาหวานไม่ควรจะงดอาหาร

ขั้นตอนในการตรวจ

  • เมื่อท่านเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วพยาบาลจะให้ท่านนอนบนเตียง
  • จะทำความสะอาดหน้าอก 10 จุด แขน ขาสำหรับติดอุปกรณ์
  • เมื่อติดอุปกรณืเสร็จจะมีตัวส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าติดกับตัวท่าน และต่อเข้าเครื่องตรวจไฟฟ้าหัวใจ
  • พยาบาลจะวัดความดันโลหิตท่านอน ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจท่านอน
  • วัดความดันโลหิตท่ายืน ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจท่ายืน
  • หลังจากนั้นจะให้ท่านขึ้นไปยืนบนลู่วิ่ง
  • ในเบื้องต้นเครื่องจะเดินไปอย่างช้าๆจนกระทั่งท่านคุ้นเคยกับเครื่องแล้วจึงเริ่มการตรวจ
  • เริ่มแรกเครื่องจะเดินช้าและไม่ชันมาก เมื่อเวลาผ่านไปเครื่องจะค่อยเร็วขึ้น ชันขึ้น
  • ท่านวิ่งไปตามปกติไม่ต้องกังวลไม่เจ็บไม่ปวด
  • หากท่านเหนื่อยมาก เจ็บหน้าอก หรือจะเป็นลม หรือมีอาการอื่นให้บอกแพทย์และพยาบาลที่ดูแลท่านอยู่
  • อย่าลงจากเครื่องในขณะที่เครื่องทำงานเพราะอาจจะล้มได้
  • เมื่อวิ่งได้ตามกำหนด หรือผลตรวจให้ผลบวกแพทย์จะหยุดเครื่องซึ่งเครื่องก็จะลดระดับความเร็วและความชันจนกระทั่งหยุด
  • แพทย์จะแปลผลจากกราฟคลื่นไฟฟ้าหัวใจในขณะวิ่ง

การตรวจหัวใจ