ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่กับการดูแลเด็ก
ขณะนี้ยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ในเด็ก แต่จากการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทำให้ทราบได้ว่าเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปีและหรือเด็กที่มีโรคประจำตัวจะมีความเสี่ยงต่อโรคแทรกว้อน หรือเสียชีวิต นอกจากนั้นอาการหวัดของเด็กก็ไม่สามารถแยกจากหวัดธรรมดา และบางครั้งเด็กก็อาจจะมีอาการที่ไม่เหมือนหวัด ดังนั้นการดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้การรักษาเร็วขึ้น
อาการที่บ่งบอกว่าเด็กมีอาการหนัก
- หายใจเร็ว
- หายใจลำบาก
- หยุดหายใจ
- ผิวและริมฝีปากมีสีเขียว
- ซึมลง
- เด็กระวนกระวาย
การให้ยารักษา
เด็กอยุมากกว่า 1 ปี
- จะให้ยา oseltamivir or zanamivir ในกรณีที่พิสูจน์หรืออาจจะเป็นไข้หวัดหมูconfirmed or probableอ่านที่นี่
- ในกรณีที่สงสัย suspected casesอ่านที่นี่ จะให้ในกรณีที่เด็กมีอาการหนัก
- การให้ยาควรให้ภายใน 48 ชมภายหลังเกิดอาการ
เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี
เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเรื่องโรคแทรกซ้อนของไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ในเด็ก และความปลอดภัยการใช้ยาในเด็ก แต่จากการระบาดของไข้หวัดใหญ่พบว่าเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี และการใช้ยาพบว่าโรคทรกซ้อนไม่มากจึ่งน่าจะได้ประโยชน์เมื่อให้ยารักษาโรคไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ด้วยยา oseltamivir or zanamivir
การให้ยาป้องกันการติดเชื้อ
เด็กที่มีภาวะดังต่อไปนี้ควรจะได้รับยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดสายพันธ์ใหม่2009
- ผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดสายพันธ์ใหม่หรืออาจจะเป็นไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ ที่มีความเสี่ยงสูงว่าอาจจะเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น เด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบ คนท้อง ผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปี ผู้ที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต เป็นต้น
- เด็กหรือกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนจากไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดสายพันธ์ใหม่
- เด็กหรือกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนไปเที่ยวยังประเทศที่มีการระบาด
- คำแนะนำสำหรับไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ปี2010
- เชื้อไข้หวัดใหญ่
- โรคไข้หวัดใหญ่
- ไข้หวัดหมู
- เมื่อไรจึงจะสงสัยว่าเป็นไข้หวัดหมู
- การดูแลผุ้ป่วยและการป้องกันการติดต่อ
- การตั้งครรภ์การไข้หวัดสายพันธ์ใหม่
- ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่กับการดูแลเด็ก
- การเตรียมความพร้อมสำหรับครอบครัว
- อาการและการดำเนินของโรค
- การสวมหน้ากากอนามัย
- การดูแลผู้ป่วย
- การติดต่อ
- การเตรียมที่ทำงานสำหรับรับการระบาด
- การฉีดวัคซีน