วิธีวัดความดันโลหิต

ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่ไม่มีอาการอะไร วิธีการที่จะทราบว่าเป็นความดันโลหิตสูง คือต้องวัดความดันโลหิต การวัดความดันสูงเพียงครั้งเดียว มิได้หมายความว่าคุณเป็นความดัน แต่เป็นการเตือนว่าคุณต้องเฝ้าระวังว่าความดันโลหิตสูงคุกคามคุณเข้าแล้ว  แพทย์จะวัดความดันโลหิตด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า sphygmomanometer ร่วมกับหูฟัง ค่าที่วัดได้มีสองค่าคือ systolic/diastolic เช่น 140/80 มม.ปรอท โดยตัวแรกคือค่า systolic เป็นค่าความดันโลหิตขณะที่หัวใจบีบตัว ค่าหลังคือ diastolic เป็นค่าความดันโลหิตขณะที่หัวใจคลายตัว


วัดความดันโลหิตด้วยตัวเอง

วิธีการวัดวิธีการวัดมีดังนี้ข้อควรปฏิบัติก่อนการวัดความดันโลหิต

  1. การเตรียมผู้ป่วยก่อนวัดความดันโลหิต

ไม่ดื่มชา กาแฟ ไม่สูบบุหรี่ก่อนทำการวัด 30นาทีพร้อมทั้งถ่ายปัสสาวะ อุจาระให้เรียบร้อย ให้ผู้ป่วยนั่งอยู่ในห้องที่สงบเป็นเวลา 5 นาทีหลังพิงพนักเพื่อมิให้เมื่อยหลัง เท้าสองข้างวางราบกับพื้นห้ามนั่งไกว่ห้างไม่พูดคุบขณะวัด แขนว้ายหรือขวาวางบนโต๊ะขณะวัด ไม่กำมือ

  1. การจัดสิ่งแวดล้อมก่อนวัดความดันโลหิต

สถานที่ใช้ตรวจต้องเงียบและเป็นส่วนตัว และต้องไม่มีปัจจัยที่จะทำให้ความดันโลหิตผันแปร 

  • เครื่องวัดต้องอยู่ในแนวสายตาหากสูงหรือต่ำไป จะทำให้การวัดคลาดเคลื่อน
  • ความสูงของโต๊ะ เมื่อผู้ป่วยนั่งบนเก้าอี้และวางมือบนโต๊ะ แขนควรอยู่ในระดับหัวใจ ควรปรับความสูงของโต๊ะเพื่อให้ได้ตำแหน่งดังกล่าว
  • ผู้ป่วยนั่งบนเก้าอี้ แขนที่จะวัดอยู่ในระดับหัวใจ
  1. การเตรียมการวัดและการพักก่อนวัดความดันโลหิต

เพื่อจัดการกับสิ่งที่จะทำให้การวัดความดันโลหิตผิดพลาดควรจะแนะนำผู้ป่วยดังนี้

  • อุณหภูมิห้องต้องไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป
  • ไม่ควรใส่เสื้อแขนยาวขณะวัดความดันโลหิต
  • ขณะวัดไม่ควรมีความเครียด อาการเจ็บปวด ไม่ปวดปัสสาวะ
  • ไม่ควรวัดความดันหลังอาหาร
  • ต้องงดบุหรี่และกาแฟก่อนวัดความดันโลหิต 30 นาที
  • ให้นั่งพัก 5 นาทีห้ามนั่งไข่วห้าง หลังพิงพนัก เท้าอยู่บนพื้น


  1. การเลือกขนาดของผ้าพันรัดแขน

ขนาดของผ้าพันรอบแขนจะมีผลต่อความดันขนาดที่เหมาะสมคือความกว้างต้องประมาณ40% ของเส้นรอบวงแขน ความยาวต้องอย่างน้อย 80% หากขนาดผ้าเล็กไปจะทำให้ค่าความดันโลหิตสูงเกินไป ปกติจะให้วัดแขนขวาเสมอ

  • ขนาดมาตราฐานสำหรับผู้ใหญ่กว้าง 12-13 ซม ยาว 35 ซม
  • รอบแขน 22–26 cm,ใช้ผ้าขนาด "small adult" ขนาด—12 - 22 cm.
  • รอบแขน 27–34 cm, ใช้ผ้าขนาด"adult" ขนาด—16 - 30 cm.
  • รอบแขน 35–44 cm, ใช้ผ้าขนาด"large adult" ขนาด—16 - 36 cm.
  • รอบแขน 45–52 cm,ใช้ผ้าขนาด"adult thigh" ขนาด—16 - 42 cm.
  1. การพันผ้ารัดแขน

  • ควรจะวัดแขนข้างที่ใช้งานน้อย
  • ควรจะแนะนำให้ผู้ป่วยใส่เสื้อแขนสั่นเมื่อมาวัดความดัน
  • หากจะใส่เสื้อแขนยาวให้เป็นเสื้อคลุมที่สามารถถอดออกได้ง่าย
  • ไม่ควรใช้วิธีรูดแขนเสื้อขึ้นไปเพราะจะทำให้ค่าความดันโลหิตที่วัดได้ไม่ถูกต้อง
  • ให้คลำหลอดเลือดแดงที่แขนแล้วพันผ้าโดยให้ศูนย์กลางของผ้ากดทับเส้นเลือด
  • ขณะพันต้องพันอย่างสม่ำเสมอไม่พันแน่นหรือหลวมเกินไป ปลายผ้าจะอยู่เหนือข้อศอก 2-3 ซม
  • ระหว่างการใช้หูฟังระวังสัมผัสกับผ้าจะทำให้เกิดเสียงหลอก
  • ผ้าที่พันจะต้องอยู่ในระดับหัวใจเสมอ
  1. การเพิ่มความดันเข้าในผ้า

ก่อนที่จะวัดความดันโลหิตเรายังไม่ทราบว่าผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงหรือต่ำ

  • เราจะใช้วิธีคลำหลอดเลือดแดงที่แขน
  • พันผ้าให้ตรงกลางของผ้าซึ่งจะมีเครื่องหมายวงกลมเล็กๆวางตรงกับแนวทางของหลอดเลือดแดง
  • แล้วบีบจนกระทั่งความดันไปอยู่ที่60 มิลิเมตรปรอท แล้วบีบลมเข้าไปทีละ 10 มิลิเมตรปรอทจนกระทั่งคลำชีพขจรไม่ได้
  • แล้วจึงปล่อยลมออกด้วยอัตรา 2 มิลิเมตรปรอท
  • จดค่าความดันที่เริ่มคลำได้ชีพขจร
  • หลังจากนั้นจึงใช้หูฟังวางบนเส้นเลือดและบีบลมจนความดันสูงกว่าค่าที่จดไว้ 30 มิลิเมตรปรอท แล้วจึงปล่อยลมด้วยอัตราเร็ว 2 มิลิเมตรปรอท/วินาที
  • เสียงแรกที่ได้ยินคือค่าความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว(systolic) อีกค่าหนึ่งให้จดค่าความดันที่เสียงการเต้นหายไปเรียก (diastolic)
  • ให้วัดความดันโลหิตค่า systolic/diastolic
  • อีก 2 นาทีให้วัดความดันโลหิตซ้ำ ถ้าครั้งแรกและครั้งที่สองห่างกันเกิน 5 มม.ปรอทให้วัดครั้งที่ สาม
  • ระหว่างการวัดความดันโลหิตไม่ควรจะมีการพูดคุย

ท่าที่ใช้วัดความดันโลหิต

ท่าที่ใช้วัดความดันโลหิตมีผลต่อค่าที่วัดได้ดังนี้

  • เมื่อวัดความดันท่านั่ง ความดัน diastolic จะสูงกว่าท่านอน 5 มม.ปรอท
  • เมื่อวัดความดันท่านั่ง ความดัน systolic จะสูงกว่าท่านอน 8 มม.ปรอท
  • ความดันท่านั่งโดยที่ไม่ได้พิงพนักความดัน diastolic จะสูงขึ้น 6 มม.ปรอท
  • การวัดความดันโลหิตเมื่อนั่งไขว้เท้า ความดัน systolic จะสูงขึ้น6-8 มม.ปรอท
  • แขนต่ำกว่าหัวใจ(ระดับกลางหน้าอก) เช่นการห้อยแขน ความดันที่วัดได้จะสูงกว่าปกติ
  • แขนสุงกว่าหัวใจ ค่าความดันโลหิตที่วัดได้จะต่ำกว่าปกติ

ควรจะวัดความดันกี่ครั้งดี

การวัดความดันหลายครั้งจะมีความแม่นยำมากกว่าการวัดความดันเพียงครั้งเดียว ค่าที่วัดได้ครั้งแรกจะสูงสุด ให้วัดซ้ำ อีกหนึ่งนาทีต่อมา หากทั้งสองค่าห่างกันมากกว่า 5 มม.ปรอทก็ให้วัดครั้งที่ 3 แล้วหาค่าเฉลี่ย

กลับไปหน้าวิธีวัดความดันโลหิต เครื่องวัดความดันโลหิต

เพิ่มเพื่อน