ยาเม็ดรักษาเบาหวานชนิดรับประทาน
ยารักษาน้ำตาลจะออกฤทธฺิ์ต่างกันการเลือกใช้ยาอย่างถูกต้องจะลดโรคแทรกซ้อนจากยา และให้ผลการรักษาดี
ตารางเปรียบเทียบผลของยาเม็ดลดน้ำตาลในการรักษาเบาหวาน
ตารางเปรียบเทียบทางคลินิกของยาเม็ดลดน้ำตาล |
||||
ชนิดของยา | ตำแหน่งออกฤทธิ์ | ผลต่อน้ำตาล | FPG ที่ลด (มก.%) | HbA1cที่ลด (%) |
Acarbose | ลำไส้เล็ก | น้ำตาลหลังอาหาร | 16-20 | 0.5-1 |
Metformin | ตับ และลำไส้ | ลดน้ำตาลตอนเช้า และน้ำตาลทั้งวัน | 58 | 1-2 |
Repaglinide | เบตาเซลล์ | น้ำตาลหลังอาหารและน้ำตาลหลังอาหาร | 1-2 | |
Sulfonylurea | เบตาเซลล์ | ลดน้ำตาลตอนเช้า และน้ำตาลทั้งวัน | 50-60 | 1-2 |
Troglitazone | กล้ามเนื้อ และไขมัน | ลดน้ำตาลตอนเช้า และน้ำตาลหลังอาหาร | 25-40 | 0.5-1.5 |
ท่านควรจะมีความรู้เรื่องยาที่รับประทานอะไรบ้าง
- ทราบชื่อยาและขนาดที่ท่านรับประทาน หากไม่ทราบชื่อยาก็ควรจะทราบลักษณะรูปร่าง สีของเม็ดยา เมื่อเวลาเจ็บป่วยควรจะแจ้งแพทย์ว่าท่านกำลังรับประทานยาลดน้ำตาลอยู่ วิธีที่ดีที่สุดคือให้แพทย์ที่รักษาเบาหวานให้ท่านจดชื่อยาไว้ในสมุดประจำตัวของท่าน
- ทราบกลไกการออกฤทธิ์ของยา ทราบว่าควรจะรับประทานเวลาใดยาจึงออกฤทธิ์ได้สูงสุด และมีผลข้างเคียงอย่างไร
- ทราบขนาดสูงสุดของยา การเพิ่มยาด้วยตัวเองอาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน
- ทราบผลข้างเคียงของยา โดยเฉพาะภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและวิธีแก้ไข
- ทราบข้อห้ามในการใช้ยา
|
เมื่อรับประทานยาลดน้ำตาลในเลือดควรปฏิบัติตัวอย่างไร
- รับประทานอาหารให้สม่ำเสมอ และตรงต่อเวลา
- รับประทานยาตามมื้อที่แพทย์สั่ง
- หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
- ควรทราบผลข้างเคียงของยาโดยสอบถามจากแพทย์หรือศึกษาจากคู่มือในการใช้ยา เมื่อสงสัยว่าจะเกิดอาการแพ้ยาควรปรึกษาแพทย์
- ควรแจ้งแพทย์ว่ามีประวัติแพ้ยาอะไรบ้าง
- ควรทราบวิธีแก้ไขเมื่อมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ทราบวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเวลาเจ็บป่วย
- หากการควบคุมน้ำตาลยังไม่ดีควรจะเจาะน้ำตาลปลายนิ้วที่บ้าน
วิธีป้องกันมิให้ลืมรับประทานยา
- รับประทานยาเวลาเดียวกันทุกวัน
- รับประทานยาเวลาเดียวกับยาอื่นๆที่ใช้อยู่ หรือสัมพันธ์กับกิจกรรมอื่น เช่นหลังแปรงฟัน
- เก็บยาไว้ในที่มองหาง่ายและหยิบง่าย ไม่ต้องแช่เย็น
- ให้ความสนใจมื้อที่มักลืมเสมอ
- แบ่งขนาดยาเป็นมื้อๆต่อวัน
ถ้าลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร
หากลืมรับประทานยา 1-2 ชั่วโมงก็ให้รับประทานยามื้อนั้น ยกเว้นยากลุ่ม Acarbose หากจำได้เมื่อถึงยามื้อต่อไปก็ไม่ต้องเพิ่มยา
ถ้าวันไหนรับประทานอาหารมากเป็นพิเศษ สามารถเพิ่มยารับประทานได้หรือไม่
โดยปกติมักจะแนะนำให้รับประทานอาหารในปริมาณที่สม่ำเสมอ ไม่ควรรับประทานมากเมื่ออาหารถูกปาก หรือลดปริมาณอาหารเมื่ออาหารไม่ถูกปากเพราะจะทำให้การควบคุมเบาหวานยาก มีการแกว่งของระดับน้ำตาล ดังนั้นเราไม่สามารถรับยาเพิ่ม นอกเสียจากยากลุ่ม Repaglinideซึ่งออกฤทธ์เร็วอาจจะปรับขนาดยาตามปริมาณอาหารที่รับประทาน
ถ้าหากรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาควรทำอย่างไร
ไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะอาจจะเกิดโรคแทรกซ้อนเช่นน้ำตาลสูงหรือต่ำเกินไป ในกรณีที่สุดวิสัยอาจจะต้องเตรียมตัว เช่นพกนมไว้ 1 กล่องดื่มขณะที่รถติดไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามเวลา อาจจะใช้ยา Repaglinide เป็นตัวเลือกเพราะยาตัวนี้จะรับประทานก่อนอาหาร 15 นาทีจะแก้ปัญหาเรื่องรับประทานไม่เป็นเวลาได้
กรณีเจ็บป่วยรับประทานอาหารไม่ได้ต้องหยุดยาหรือไม่
กรณีที่ร่างกายเราเจ็บป่วยจะเกิดความเครียด ระดับน้ำตาลมักจะสูงดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องหยุดยา หากรับประทานอาหารตามปกติไม่ได้อาจจะรับประทานซุป น้ำผลไม้ ขนมปังแทน
คนที่เป็นเบาหวานหากตั้งครรภ์จะทำอย่างไร
หากท่านเป็นเบาหวานรับประทานยาเม็ดอยู่เมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ ท่านต้องรีบรายงานแพทย์โดยด่วนเพื่อแพทย์จะได้เปลี่ยนยารับประทานเป็นอินซูลิน เนื่องจากยารับประทานอาจจะไหลผ่านจากรกไปสู่ลูกคุณได้ เมื่อคลอดบุตรแล้วอาจจะให้ยารับประทานใหม่
ผู้ป่วยที่มีน้ำตาลในเลือด 126-140 มก.%จะใช้ยาอะไรดี
จากตารางจะเป็นแนวทางการเลือกใช้ยาเม็ดลดน้ำตาล หากผู้ป่วยมี HbA1c สูงเล็กน้อยและ น้ำตาลหลังอดอาหาร[fasting blood sugar]อยู่ระหว่าง 126-140 มก.% ให้เลือกใช้ acrbose ผู้ป่วยกลุ่มนี้หากเป็นคนอ้วนให้ใช้ Metformin แทน แต่ถ้าสงสัยว่าจะมี insulin resistant โดยตรวจพบว่ามี central obesity คือมีอัตราส่วนของรอบเอวต่อรอบสะโพกมากกว่า 1 หรือ 0.8 ในชายและหญิงตามลำดับให้ใช้ Troglitazone
ผู้ป่วยที่มีน้ำตาลในเลือด >140 มก.%จะใช้ยาอะไรดี
ให้ใช้กลุ่ม sulfonylurea โดยเริ่มใช้ยาในขนาดต่ำ ถ้าน้ำตาลมากกว่า 250 มก.%ให้เริ่มยาครั้งละ 1 เม็ด ถ้า น้ำตาลมากว่า200 มก.% HbA1c>10% ให้เริ่มยาลดน้ำตาล 2 ชนิด
การรักษาเบาหวานด้วยยา
การควบคุมอาหาร | การออกกำลังกาย | การรักษาเบาหวานด้วยยา | การใช้อินซูลิน | การประเมินการรักษา | โรคเบาหวานกับสุภาพสตรี | โรคเบาหวานและการท่องเที่ยว | การดูแลเมื่อเวลาป่วย | เบาหวานกับเอสไพริน | การดูแลในช่องปาก | การดูแลผิวหนัง
อ้างอิง
https://www.rxlist.com/oral_diabetes_medications/drugs-condition.htm
https://www.healthline.com/health/diabetes/medications-list
https://my.clevelandclinic.org/health/articles/12070-oral-diabetes-medications
https://www.diabetes.org/diabetes/medication-management/oral-medication
https://www.webmd.com/diabetes/oral-medicine-pills-treat-diabetes
กลับหน้าแรก |