การป้องกันไวรัสตับอักเสบชนิดเอ Hepatitis A prevention
เราแบ่งการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอไว้เป็นสองรูปแบบคือ
- การป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบหลังจากที่ได้รับเชื้อแล้ว
- การป้องกันการติดเชื้อก่อนที่จะรับเชื้อ
การป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบหลังจากที่ได้รับเชื้อแล้ว
คำแนะนำสำหรับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอขึ้นกับ ระยะเวลาที่รับเชื้อพบว่าหากให้การป้องกันภายใน 14 วันหลังสัมผัสโรคจะลดการติดเชื้อลงได้ร้อยละ85-90% อายุของผู้สัมผัส โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากจะมีอาการมาก และมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มที่มีอายุน้อย นอกจากนั้นผู้ที่มีโรคตับอยู่ก่อนก็จะมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วๆไปดังนั้นการให้การป้องกันจะต่างกัน
- สำหรับผู้ที่มีโรคตับ โรคประจำตัวอื่นๆเช่นโรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น หรือผู้สูงอายุ(>40)หากสัมผัสหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ที่ไม่เคยได้รับวัคซียป้องกันไวรัสตับอักเสบมาก่อน ควรจะได้รับยา IG(Immunoglobulin Gramma)(0.02 mL/kg) เพียงเข็มเดียว
- สำหรับกลุ่มอายุตั้งแต่ 12 เดือนถึงอายุ 40 ปีควรจะใช้วัคซีนป้องกันเพราะจะทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้นกันตลอดชีวิต และยังไม่มีข้อมูลว่าการให้ IG จะดีกว่าการให้วัคซีน
- สำหรับ IG ควรให้ในรายที่อายุน้อยกว่า 12 เดือนหรือมากกว่า 40 ปี หรือผู้ที่มีภูมิคุ้นกันบกพร่อง หรือมีโรคประจำตัว ผู้ที่ได้ IG ควรจะได้ vaccine รวมด้วย
- การให้ยาป้องกันหลังจากสัมผัสโรคเกิน 14 วันพบว่ายังไม่มีรายงานถึงประสิทธิภาพ
กลุ่มผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ
ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบเอ โดยมีการยืนยันผลตรวจเลือดผู้ที่สัมผัสเหล่านหากไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอมาก่อน ควรจะได้รับวัคซีนหรือ IG ทุกราย
สถานรับเลี้ยงเด็ก
ผู้ดูแลที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ ควรจะได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ ควรจะได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ หรือ IG โดยมีภาวะดังต่อไปนี้
- เด็กในสถานเลี้ยงเด็กหรือมีเจ้าหน้าที่เป็นไวรัสตับอักเสบ เอ
- มีสมากชิกในครอบครัวของเด็กหรือผู้ดูแลเป็นไวรัสตับอักเสบ เอ สองรายขึ้นไป
- หากมีการระบาดของไวรัสตับอักเสบ เอคือมีผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ เอตั้งแต่สามรายขึ้นไป สมาชิกในครอบครัวของเด็ก หรือผู้ดูแลจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน
- สำหรับเด็กโตที่เข้าห้องน้ำเองได้ไม่ได้ใส่ผ้าอ้อมจะฉีดวัคซียป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ ในเด็กชั้นเดียวกับเด็กที่ป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบ เอ
โรงพยาบาล ที่ทำงาน โรงเรียน
หากมีสมาชิกป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบ เอเกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ทุกราย ให้การดูแลเรื่องสุขอนามัย เช่น การล้างมือ การรับประทานอาหารที่ร้อน ใช้ช้อนกลางเป็นต้น
การป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทาง หรือทำงานยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ สูงควรจะได้รับการฉีดวัคซีน หรือ IG เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยขึ้นกับอายุ โรคประจำตัว และระยะเวลาตั้งแต่ฉีดจนกระทั่งเดินทาง
- ผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนหากต้องไปในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อควรจะได้รับวัคซีนหรือ IG สำหรับพื้นที่ทีอัตราการติดเชื้อต่ำก็ไม่จำเป็นต้องฉีด
- สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 มีโรคตับ ผู้คุ้มกันบกพร่องนอกจากได้รับวัคซีนแล้วยังต้องได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ ยังต้องได้รับ IG
แหล่งข้อมูล :Prevention of Hepatitis A After Exposure to Hepatitis A Virus and in International Travelers. Updated Recommendations of the Advisory Committee on Immunization Practices (ACIP)